พัฒนาการของระบบประกันคุณภาพ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนามาตรฐานคุณภาพการศึกษาและมุ่งดำเนินการให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอดีตมาจนถึงปัจจุบันสามารถสรุปได้ ดังนี้
- พ.ศ. 2537 ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ปราณี กุลละวณิชย์ ได้ริเริ่มในส่วนของการประเมินผลการเรียนการสอน
- พ.ศ. 2540 พัฒนาการประเมินผลการเรียนการสอนเป็นระบบประกันคุณภาพทางวิชาการ
- พ.ศ. 2543 มหาวิทยาลัยมีนโยบายขยายระบบประกันคุณภาพให้ครอบคลุมมากขึ้น จากประกันคุณภาพทางวิชาการสู่การประกันคุณภาพทุกหน่วยงานในมหาวิทยาลัย จึงพัฒนาระบบประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยขึ้นมา
- พ.ศ. 2544 เริ่มใช้งานระบบประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัย “มาตรฐานระบบประกันคุณภาพของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ CU-QA 84 Standard”
หลังจากนั้น มหาวิทยาลัยได้พัฒนาด้านประกันคุณภาพอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
ระยะที่ 1 การประกันคุณภาพระบบ (Quality of System) (พ.ศ. 2544 – 2547)
จุฬาฯ ได้กำหนดมาตรฐานประกันคุณภาพ CU-QA 84 ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดระบบวางระเบียบในการประกันคุณภาพของจุฬาฯ ให้มีเอกภาพระหว่างหน่วยงาน และเพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะงานของหน่วยงานในมหาวิทยาลัยจึงจำแนกเป็น 4 มาตรฐาน ดังนี้
- CU-QA 84.1 มาตรฐานประกันคุณภาพสำหรับหน่วยงานด้านการเรียนการสอน
- CU-QA 84.2 มาตรฐานประกันคุณภาพสำหรับหน่วยงานด้านการวิจัย
- CU-QA 84.3 มาตรฐานประกันคุณภาพสำหรับหน่วยงานด้านการบริหารและสนับสนุน
- CU-QA 84.4 มาตรฐานประกันคุณภาพสำหรับหน่วยงานด้านบริการวิชาการ
ระยะที่ 2 การประกันคุณภาพเนื้อหา (Quality of Content) (พ.ศ. 2548 – 2557)
หลังจากที่การประกันคุณภาพเชิงระบบ (CU-QA 84) ดำเนินการมาได้ระยะหนึ่ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ระบบประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยยังคงมีการดำเนินการอยู่อย่างมั่นคง สม่ำเสมอ และต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยจึงได้มีการพัฒนากลไกในการควบคุม กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินขึ้นในรูปแบบต่างๆ จำแนกได้ ดังนี้
- CU-CQA (Curriculum Quality Assurance) : การประกันคุณภาพหลักสูตร การเรียนการสอน และบัณฑิต
- CU-RQA (Research Quality Assurance) : การประกันคุณภาพกระบวนการวิจัย และงานวิจัย
- CU-SaQA (Academic Service Quality Assurance) : การประกันคุณภาพการบริการวิชาการ
- CU-SsQA (Service & Supporting Quality Assurance) : การประกันคุณภาพการบริการและสนับสนุน
เมื่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้พัฒนากระบวนการประกันคุณภาพการศึกษาภายในขึ้นและส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษานำไปใช้เป็นแนวทางในการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 เป็นต้นไป ดังนั้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้มีการปรับเปลี่ยนที่สำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไป 2 ประการ ดังนี้
- พัฒนาระบบประเมินผลปฏิบัติงานตามตัวชี้วัดยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย
- เกิดหน่วยงานใหม่ที่ชื่อว่า ศูนย์บริหารความเสี่ยง รับผิดชอบดูแลเรื่องการบริหารความเสี่ยงทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและส่วนงาน และใช้ระบบประกันคุณภาพตามแนวทางของ สกอ. ซึ่งเป็นระบบขั้นพื้นฐานตามกฎหมาย
ระยะที่ 3 การบริหารคุณภาพ (Quality of Enterprise Management) (พ.ศ. 2558 – ปัจจุบัน)
ตามประกาศคณะกรรมการประกันคุณภาพภายในระดับอุดมศึกษา (คปภ.) เรื่องหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายใน ระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2557 กำหนดให้สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับหลักสูตร คณะ และสถาบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้มีการพัฒนาระบบประกันคุณภาพหลักสูตร (CU-CQA100) เพื่อใช้ประเมินในระดับหลักสูตร สำหรับในระดับส่วนงานส่วนใหญ่ใช้เกณฑ์การประเมินตามระบบของ สกอ. (เดิม) และมหาวิทยาลัยยังได้สนับสนุนส่วนงานที่มีความพร้อมให้นำเกณฑ์มาตรฐานอื่นมาใช้ประเมินระดับส่วนงานแทนระบบของ สกอ. (เดิม) อีกด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในระดับมหาวิทยาลัย ได้มีการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้นมาใช้แทนระบบของ สกอ. (เดิม) โดยเริ่มใช้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560 เป็นต้นไป ซึ่งสอดคล้องกับกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561
ปัจจุบันการประกันคุณภาพการศึกษาภายในของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีการดำเนินการ 3 ระดับ ดังนี้
ระดับมหาวิทยาลัย
จากวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยและจากสภาพการแข่งขันที่รุนแรงของสถาบันอุดมศึกษาทั้งภายในและต่างประเทศที่ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสเลือกได้มากขึ้น ประกอบกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ประจำปีการศึกษา 2559 ให้มหาวิทยาลัยพิจารณาใช้ระบบหรือเกณฑ์ในระดับสากล โดยระดับมหาวิทยาลัยเน้นการดำเนินการให้มีผลสัมฤทธิ์ตามตัวชี้วัดที่ใช้ในการจัดอันดับมหาวิทยาลัย อีกทั้งกฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ข้อ 3 ได้กำหนดไว้ว่า “ให้สถาบันการศึกษาแต่ละแห่งจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา โดยการกำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาแต่ละระดับและประเภทการศึกษา…” จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้ดำเนินการพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย โดยสภามหาวิทยาลัย ในการประชุมครั้งที่ 816 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2561 มีมติเห็นชอบระบบประกันคุณภาพการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (QCU101) และให้นำไปใช้แทนการประเมินคุณภาพการศึกษาภายในตามเกณฑ์มาตรฐานของ สกอ. (เดิม) ระดับมหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปีการศึกษา 2560
ระดับส่วนงาน
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้เปิดโอกาสให้ส่วนงานสามารถเลือกใช้ระบบของ สกอ.(เดิม) หรือระบบอื่นซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ของ สกอ. ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2561 มี 9 ส่วนงาน จากจำนวนทั้งสิ้น 35 ส่วนงาน ที่เลือกใช้เกณฑ์มาตรฐานสากล ได้แก่
- เกณฑ์ EdPEx จำนวน 7 ส่วนงาน ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะครุศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะสหเวชศาสตร์
- เกณฑ์ AACSB, EQUIS จำนวน 2 ส่วนงาน ได้แก่ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาฯ
ระดับหลักสูตร
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้พัฒนาให้มี “ระบบประกันคุณภาพการศึกษาระดับหลักสูตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” (CU-CQA100) พร้อมทั้งพัฒนาระบบให้เป็นแบบ Online ด้วย สำหรับการตรวจประเมินคุณภาพหลักสูตรได้ตรวจประเมินตัวบ่งชี้การบริหารจัดการหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรที่กำหนดโดย สกอ. (เดิม) ทั้งนี้ สำหรับกรณีที่หลักสูตรต้องการยกระดับมาตรฐานนานาชาติก็สามารถประเมินคุณภาพของหลักสูตรโดยใช้ระบบอื่นเช่น AUN-QA, AACSB, EPAS, EQUIS หรือตามมาตรฐานวิชาชีพอื่น ๆ โดยมีสำนักบริหารวิชาการเป็นผู้กำกับดูแล